สวัดดีค่ะวันนี้เราจะพาทุกท่านไปเที่ยวแพ 500ไร่ รีสอร์ท ทะเลสาบเชี่ยวหลาน เขาสก สุราษฎร์ธานี วันที่ 12-13 มีนาคม 2562 กันนะคะ รอบนี้บินมากับพี่หางแดงและใช้บริการรถเช่าเช่นเคยจ้าาา

เนื่องจากทริปนี้เราไม่ได้มาเที่ยวกันเอง ไม่ได้มากับเพื่อนและไม่ได้มากับญาติแต่เราพาเพื่อนต่างชาติมาเที่ยวค่ะ ด้วยความที่อยากจะให้เขาประทับใจในความสวยงามของเมืองไทยเลยตัดสินใจพามาที่นี่ (ในใจก็แอบคิด..หวังว่าจะไม่ผิดหวัง)

เราจองแพคเกจแบบ 2 วัน 1 คืนของแพ 500 ไร่ แต่ เนื่องจากเรามากันคนละที่แล้วนัดเจอกันที่สนามบิน เพื่อนต่างชาติจะบินมาจากเชียงใหม่ ส่วนเราบินจาก กทม.ทริปนี้ก็เลยต้องเดินทางล่วงหน้าก่อนไปแพ 1 วัน แล้วไปพักที่รีเวอร์วิว รีสอร์ท ซึ่งจะอยู่บริเวณสันเขื่อนรัชประภาเลย สะดวกดีค่ะ ตกเย็นก็พากันไปเดิน ชมวิวที่เขื่อน

ก่อนจะจองแพคเกจ เราก็ได้ติดต่อทางไลน์เพื่อสอบถามข้อมูลและรายละเอียดกับเซลล์ สรุปได้แพคเกจนี้มาค่ะ Happy Family Package ราคา 19,999 บาท พักได้ 4 คน แต่เนื่องจากเพื่อนเราเป็นต่างชาติก็เลยได้จ่ายเพิ่มอีกคนละ 200 บาท (ถ้าจำไม่ผิดนะคะ)

อันนี้เป็นภาพที่เซลล์ส่งมาให้ดูค่ะว่าห้องพักเราจะอยู๋โซนใหน แบบที่เราได้จากแพคเกจเป็น Villa มีด้วยกันทั้งหมด 6 หลัง ตามภาพเลยค่ะ ซึ่งดูแล้วก็น่าจะโอเคสำหรับ 4 คน เพราะมี 2 ชั้น 1 ห้องน้ำ 1 ห้องอาบน้ำ มีทั้งแอร์และพัดลม

เนื่องจากเราพักอยู๋ในเขื่อนแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ก็เลยประสานว่าให้เราขับรถไปรอบริเวณจุดนัดพบได้เลยจะได้ไม่เสียเวลา เนื่องจากเราไปวันธรมดา กลางสัปดาห์คนก็เลยไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่และส่วนมากก็เป็นต่างชาติด้วย เรือที่เรานั่งไปมีเพื่อนคนไทยคู่เดียวเอง นอกนั้นต่างชาติอีก 8 คน

สถานีแรกหลังจากออกเรือได้ประมาณ 30 นาที เขาก็จะพามาถ่ายรูปที่เขา 3 เกลอ ซึ่งทุกคนก็ตื่นเต้นด้วยความสวย แต่สำหรับเราอาจเป็นเพราะเคยมาแล้วก็เลยไม่ได้ตื่นเต้นมากเท่าไหร่ จบจากตรงนี้ก็นั่งเรือยาวๆไปเกือบ 45 นาทีได้ ก็เริ่มจะเห็นแพ500ไร่

เย่ๆๆ เรามาถึงแล้ว แพ500ไร่ เวลาก็เกือบบ่ายโมง มีพนักงานมายืนต้อนรับพร้อมกับ Welcome Drink และคำทักทาย น่ารักมากๆเลยค่ะ แต่ไม่ทันได้ถ่ายภาพ อิอิ

พอมาถึงแล้วก็รีบเช็คอิน รวมถึงคุยกับไกด์ที่ดูแลว่าเราจะเลือกโปรแกรมใหนในช่วงบ่ายนี้ เนื่องจากเราสามารถเลือกได้ 1 กิจกรรม เป็นรายการที่รวมอยู่ในแพคเกจ พอตกลงได้แล้วก็รีบเอากระเป๋าไปเก็บ เพราะค่อนข้างมีเวลาจำกัด

วิวหน้าห้องพักค่ะ สวยมากเลย ท้องฟ้าก็เป็นใจซะด้วย ภาพห้องนอนถ่ายได้แค่นี้ค่ะ อิอิ ด้วยความรีบก็เลยลืมแชะภาพไว้ แต่จะบอกว่าด้านในก็สวยทั้งชั้นบน ชั้นล่างเลยนะคะ ที่นอนชั้นล่างคือดีไม่ต่างจากโรงแรมบนบกเลย

ที่นอนก็นุ่มสบาย รู้สึกโอเคมากเลยค่ะ เนื่องจากว่าเราเคยมาเที่ยวเขื่อนแล้วครั้งนึง รอบที่แล้วพักแพของอุทยาน แต่รอบนี้มาแบบพิเศษหน่อยคือจ่ายแพงงงง 555 แต่สิ่งที่ได้รับย่อมแตกต่างกันตามเนื้อผ้า

อันนี้จะเป็นทางเดินด้านหลังของที่พักนะคะ สำหรับเดินไปล้อบบี้ ร้านอาหาร หรือลงเรือ

หลังจากเก็บสัมภาระไว้ในห้องพักเรียบร้อย พวกเราก็พร้อมจะลงเรือเพื่อไปตามโปรแกรมที่เลือกแล้วค่ะ พวกเราเลือกเดินถ้ำ ความรู้สึกเหมือน Private Trip เลยเพราะไม่มีใครไปกับพวกเรา อิอิ

เพื่อนต่างชาติ นางชอบมาก ถึงขั้นเอ่ยขึ้นมาว่า “This is a paradise” ขนาดนั้นเชียว ^^

เห็นป้ายแล้ววว..ทางเดินไปถ้ำน้ำทะลุ

แต่ก่อนเดินทางไกด์ก็ได้อธิบายและแนะนำเส้นทาง รวมถึงข้อควรรู้ต่างๆให้เราทราบ

ทางเดินก็จะมีสลับกันบ้างระหว่างน้ำกับดินแดง จะบอกว่าน้ำเย็นเจี๊ยบเลยยย…

เดินมาสักพักใหญ่ก็เจอต้นไม้ใหญ่ ก่อนถึงห้นาถ้ำประมาณ 80 เมตร เก็บภาพกันแป๊บ

ถึงแล้ววว..ถ้ำน้ำทะลุ แต่เดี๋ยวก่อน นี่แค่ปากถ้ำ…

เรามาเตรียมอาวุธที่ต้องใช้กันก่อนเพราะข้างในมืดมาก พกไฟฉายกันก่อน..พี่ไกด์บอก อิอิ

เก็บภาพ Before กันค่ะ ก่อนที่จะผจญภัยข้างในถ้ำ

เริ่มแล้ว ความมืด ถ้าไม่มีไฟฉายคือเดินไม่ได้จริงๆค่ะ เพราะจะไม่สามารถมองเห็นอะไรได้เลย

ด้านในสวยมาก มีทั้งหินงอก หินย้อย ตรงใหนน่าสนใจเป็นพิเศษไกด์เขาก็จะอธิบายให้ฟัง ไได้ทั้งสาระและความรู้กันไปค่ะ

และแล้วเราก็เจอ..ค้างคาวนอนกลางวัน มีเยอะมากและกลิ่นขี้ค้างคาวก็แรงมากด้วย

แมงมุมก็มา ตัวใหญ่ด้วย ไม่รู้ว่ามีพิษรึเปล่า แต่เราก็พยายามอยู่ห่างๆแบบไม่รบกวนเขามากเกินไป

ปูอยู่ในซอกหิน ไม่รู้ว่ากำลังหลับอยู่รึเปล่า..หุหุ

กบก็มา แล้วมีเยอะด้วย ในถ้ำนี้สมบูรณ์แบบธรรมชาติสร้างมาจริงๆค่ะ ต่างชาติที่มาเที่ยวเขาก็เลยชอบเพราะได้เห็นของจริงในธรรมชาติ

มีทั้งหินงอกและหินย้อยที่ธรรมชาติสรรค์สร้าง อยากรู้มากเลยว่าต้องใช้เวลานานเท่าไหร่กว่าจะก่อตัวได้ขนาดนี้

เราใช้เวลาเดินถ้ำนานพอสมควร กลับออกมาถึงตรงเรือจอดรอก็เกือบห้าโมงเย็น ระหว่างทางที่นั่งเรือกลับก็ได้ชมพระอาทิตย์ตกพอดี

สำหรับเมนูอาหาร เรื่องปากเรื่องท้องของแพ500ไร่ ไม่พูดไม่ได้แล้ว เพราะเป็นอะไรที่ประทับใจมากกก คือเขาจัดเต็มมากก

เอาง่ายๆเลยคือจะขอรวมภาพให้ดูละกันว่า 2 วัน 1 คืนสำหรับที่นี่เราเจอเมนูอะไรบ้าง

แต่ละหม้อคือแต่ละเมนูอาหาร คือเยอะมาก เลือกกินไม่ถูกเลย น่าทานทั้งนั้นและที่สำคัญคืออร่อย


ขนาดเครื่องปรุงยังจัดไว้สวยเลย

ในส่วนของขนมหวานนั้นก็อร่อย ถูกใจมาก โดยเฉพาะข้าวปิ้ง ไม่คิดเลยว่าจะได้มากินข้าวปิ้งบนแพ500ไร่ เพราะขนาดโรงแรมทั่วไปเขายังไม่มีทำเลยแปลกๆแบบนี้


ขนมไทยก็มา ถูกใจฝรั่งเขาเลยแหละ




บรรยากาศยามเช้าเคล้าสายหมอก บริเวณหน้าห้องพัก

ทริปสำหรับช่วงเช้านั่งเรือชมนก ชมไม้ รวมถึงสัตว์ป่าที่หากินบริเวณริมน้ำ

เนื่องจากว่าเราเคยไปชมนกมาแล้ว รอบนี้ก็เลยไม่ไปด้วยเพราะอยากพายเรือคายัคเล่นบริเวณหน้าที่พักแล้วก็ถ่ายรูปบรรยากาศตามที่เห็นค่ะ

เก้าอี้สำหรับนั่งอาบแดดริมสระน้ำ ส่วนเราเองไม่ได้ลงสระน้ำเพราะกระโดดลงในน้ำจริงไปเลย สนุกกว่า

มีปลาเยอะมาก สามารถซื้อเม็ดข้าวโพดเพื่อเอามาให้ปลากินได้ค่ะ ดูเพลินตาไปเลยทีเดียว

วิวคือสวย มองไปจนสุดลูกหูลูกตา ดูยังไงก็ไม่เบื่อ

สำหรับคนที่กำลังตัดสินใจอยู่ แนะนำว่าไปเลยค่ะประทับใจแน่นอน ทริปของเรา 2 วัน 1 คืน อาจดูกระชั้นชิดเกินไปแต่สำหรับเราคือโอเค กำลังดี เพราะอยู่หลานวันเกินก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไร แล้วอีกอย่างถึงแม้เราจะมีอาชีพฟรีแลนด์แต่เราก็ต้องติดต่อกับคน มีลูกค้าที่ต้องดูแล ถ้าอยู่หลายคืนจะลำบากหน่อยเพราะที่นี่ไม่มีสัญญาณเลย และที่สำคัญเวลาประมาณนี้กำลังดีกับกระเป๋าตังค์เราค่ะ อิอิ
ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะคะ ไว้เจอกันอีกทริปหน้าค่ะ 🙂
